loading...
กรณีอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ชื่อดังผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ระบุว่าภาพวาดของตนชื่อ “ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก” ขนาดกว้าง 178 คูณ 148 เซนติเมตร ซึ่งวาดเอาไว้เมื่อปี 2542 พร้อมกับศิลปินสำคัญทั่วประเทศ แล้วมอบให้กับศาลากลาง จ.แพร่ ตามโครงการของทางราชการ เพื่อเฉลิมพระชนมมายุในหลวงรัชกาลที่ 9 ครบ 72 พรรษา แต่ปรากฎว่าภาพมีรอยฉีกขาดหลายจุด จึงเรียงร้องให้แก้ไขอย่างเร่งด่วนนั้น ล่าสุดทางผู้บริหารจากศาลากลาง จ.แพร่ โทรศัพท์ไปหาอาจารย์เฉลิมชัยแล้ว หลังจากที่ทางจ.แพร่ แถลงข่าวขอโทษพร้อมจะแก้ไขปัญหาให้เป็นอย่างดี โดยยกภาพวาดไปไว้ในที่เหมาะสม เพื่อเตรียมซ่อมแซมและใส่กรอบกระจกให้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘อ.เฉลิมชัย’โวยภาพวาด“ในหลวงร.9”ที่แพร่ เสียหายหนักปล่อยให้ขาด-มีรอยด่าง จี้มท.ดูแล
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าวว่า ก่อนอื่นตนต้องขอขอบคุณทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ด้วยที่แจ้งมาว่าจะช่วยดูแลภาพวาดดังกล่าวให้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เรื่องการซ่อมแซมภาพวาดในลักษณะนี้นั้นถือว่ายากมาก เพราะมีความละเอียดอ่อน และคนที่จะซ่อมแซมให้เนื้อภาพเป็นเหมือนเดิมได้ มีเพียงตนเท่านั้น ซึ่งระยะเวลาก็คาดว่าคงไม่น้อยกว่า 2-3 เดือน
loading...
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า เมื่อตนมีโอกาสเดินทางไปยังจ.แพร่ จะแวะเข้าไปดูสภาพของภาพวาดดังกล่าวด้วยตัวเอง เพื่อดูว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไร หากว่าดูสภาพแล้วยังสามารถทำการซ่อมแซมได้ในพื้นที่จ.แพร่ ก็จะช่วยทำให้จนกว่าจะแล้วเสร็จ แต่หากว่าไม่สามารถทำได้ในพื้นที่ ก็ต้องขอยกภาพกลับไปทำการซ่อมแซมที่จ.เชียงราย เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจึงค่อยนำกลับไปไว้ที่ศาลากลาง จ.แพร่ เหมือนเดิมต่อไป เมื่อดูจากภาพถ่ายที่ลูกศิษย์นำมาให้แล้ว ยอมรับว่าคงจะซ่อมแซมได้ยาก
“สำหรับภาพวาดของศิลปินที่นำไปติดตั้งตามศาลากลางจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศนั้น ขอฝากถึงทุกจังหวัดให้ช่วยกันดูแลด้วย เพราะภาพที่วาดที่ล้ำค่าเนื่องจากเป็นภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 และผู้วาดต่างก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงด้วยกันทั้งหมด สิ่งสำคัญคือแม้แต่ผม ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงแล้ว ภาพของผมยังมีสภาพเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงภาพวาดของคนอื่นๆ อีกด้วย” ศิลปินแห่งชาติ กล่าว
loading...
ที่มา: https://www.khaosod.co.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น